ไฟป่ามาจากไหน ทำไมถึงไหม้กันทุกปี นี่คือพฤติกรรมต้นเหตุไฟป่าและหมอกควัน ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือโลกร้อน
ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่คนไทยและทั่วโลกยังคงต้องเผชิญกับวิกฤต COVID-19 ที่ทำให้รูปแบบการดำเนินชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมต้องเปลี่ยนไป ที่เราเรียกกันว่า New normal และวิกฤตอีกเรื่องนั่นก็คือ วิกฤตสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงในระยะยาวต่อมวลมนุษย์ชาติได้ และส่งผลกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือโลกร้อน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถานการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติที่ปรากฏในช่วงหน้าแล้งของทุกปี โดยเฉพาะในเดือน ก.พ.-พ.ค. นั่นก็คือ เหตุการณ์ไฟป่า
การที่ไฟป่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวิกฤตโลกร้อน ก็เพราะไฟป่าก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ในปริมาณมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และซึ่งก็เป็นสาเหตุของวิกฤตโลกร้อน และขณะเดียวกันวิกฤตโลกร้อนก็เป็นปัจจัยเร่งเสริมให้เกิดไฟป่าจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและความแห้งแล้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาระดับโลก และยังเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ ที่รัฐบาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทุกภาคส่วนกำลังเร่งแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วน จากการเข้าร่วมประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 หรือ COP26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เมื่อปลายปี 2564
วันนี้เราได้นำพฤติกรรมต้นเหตุ การเกิดไฟป่ามาบอกย้ำกันอีกครั้ง สถิติการเกิดไฟป่าพบว่า เกิดจากการกระทำของมนุษย์แทบทั้งสิ้น โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่ามากที่สุด คือ
1. เก็บหาของป่า ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่ามากที่สุด เช่น ไข่มดแดง เห็ด ใบตองตึง ไม้ไผ่ น้ำผึ้ง ผักหวาน และไม้ฟืน การจุดไฟเพื่อให้ป่าโล่งเพื่อจะได้เดินหาของป่าได้สะดวก หรือจุดเพื่อกระตุ้นการงอกของเห็ด การแตกใบใหม่ของผักหวาน จุดไล่ตัวมดแดงออกจากรัง หรือรมควันไล่ผึ่ง
2. ล่าสัตว์ ถือเป็นสาเหตุรองลงมา คือจุดไฟไล่ให้สัตว์หนีออกจากที่ซ่อน หรือเผาทุ่งหญ้า ให้แตกหญ้าใหม่ เพื่อล่อให้สัตว์ชนิดต่างๆ เช่น กระทิง กวาง กระต่าย มากินหญ้า แล้วดักรอยิงสัตว์
3. เผาพื้นที่การเกษตร เพื่อกำจัดวัชพืช หรือเศษซากพืชหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกใหม่
4. แกล้งจุด ในกรณีที่ประชาชนในพื้นที่มีปัญหาความขัดแย้งกับหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่ทำกินหรือถูกจับกุมจากการกระทำผิดในเรื่องป่าไม้ จึงสร้างสถานการณ์ความไม่สงบด้านทรัพยากรธรรมชาติขึ้นในพื้นที่ป่า
5. ความประมาท เช่น เข้าไปพักแรมในป่าก่อกองไฟแล้วลืมดับ หรือทิ้งก้นบุหรี่ โดยไม่ได้คำนึงว่าจะทำให้เกิดไฟลุกลามขึ้นได้
6. คึกคะนอง โดยไม่มีวัตถุประสงค์ใดๆ แต่จุดเล่นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
7. เลี้ยงสัตว์ คือต้องการให้เป็นพื้นที่โล่ง และให้หญ้าแตกยอดอ่อนสําหรับเป็นอาหารของสัตว์เลี้ยง ทั้งหมดนี้ คือสาเหตุของการเกิดไฟป่าในประเทศไทย ซึ่งในแต่ละปีพื้นที่ป่าต้องเกิดความเสียหาย สัตว์ป่าต้องจบชีวิตลง และสุดท้ายผลของการกระทำก็ย้อนกลับมาสู่มนุษย์ด้วยกันเอง
สุดท้ายนี้ ขอความร่วมมือจากทุกคน ซึ่งสามารถมีส่วนช่วยในการป้องกันไฟป่าได้ เป็นหูเป็นตาดูแลทรัพยากรป่า ไม่สร้างความเสี่ยงต่อไฟไหม้ป่า สนับสนุนหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการดูแลป่า นอกจากนี้ ช่วยกันบอกเล่าถึงปัญหาและการแก้ปัญหาไฟป่าให้กับคนรอบข้าง ร่วมกันบริโภคและใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบ ไม่สนับสนุนอาหาร และกิจกรรมที่ส่งผลต่อทรัพยากรป่า ตลอดจนดำเนินชีวิตที่เคารพต่อธรรมชาติ เราทุกคนก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา และสร้างการเปลี่ยนแปลงได้