14 มกราคม ของทุกปี วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ

ป่าไม้เป็นทรัพยากรที่สําคัญของชาติ ให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ประชาชน ช่วยรักษา ความสมดุลของภาวะแวดล้อมและป้องกันภัยธรรมชาติซึ่งนําความเสียหายอย่างร้ายแรง แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สาเหตุที่ทําให้เกิดภัยธรรมชาติ ส่วนหนึ่งมาจากการลักลอบตัดไม้ทําลายป่า จนทําให้เกิดความเสียหายต่อสภาพป่าไม้ของชาติ ทําให้เกิดความไม่สมดุลทางภาวะ แวดล้อมจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย ในพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พระราชกําหนดดังกล่าวได้ให้อํานาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอํานาจสั่งการให้สัมปทานป่าไม้สิ้นสุดลง ทั้งแปลงได้
ดังนั้นการจัดวางโครงการทําไม้ทั่วประเทศต้องยุติลงทุกโครงการและทุกพื้นที่ เหตุเนื่องมาจากอุทกภัยภาคใต้ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2531 โดยเฉพาะที่ตําบลกระทุน อําเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช และวาตภัยจากพายุเกย์ที่จังหวัดชุมพร เมื่อพ.ศ. 2532
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาแล้วเห็นว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุการลักลอบตัดไม้ทําลายป่า จําเป็นต้องทําการรณรงค์ต่อเนื่องและระยะยาวให้ประชาชนได้เข้าใจ และให้ความสําคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โดยสร้างจิตสํานึกให้กับประชาชนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดไม้ทําลายป่า เพื่อต้องการอนุรักษ์ป่าไม้ที่มีอยู่อย่างจํากัดมิให้ถูกทําลายต่อไป พร้อมทั้งได้กําหนดให้ช่วงปี 2532 - 2535 เป็น “ปีแห่งการป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ” และต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2533 กําหนดให้วันที่ 14 มกราคม ของทุกปี เป็น “วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ”
โดยมีวัตถุประสงควัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้และให้ความสำคัญต่ออันตรายที่เกิดขึ้นจากการตัดไม้ทำลายป่า และเชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันฟื้นฟูทรัพยกรป่าไม้ของชาติให้คงอยู่แบบถาวรและยั่งยืน