ครูป่าไม้ น้ำพระทัยดั่งสายธารที่ไหลหลั่ง ไปทั่วทั้งผืนป่า “ผู้ทรงริเริ่มโครงการครูป่าไม้”
เมื่อคราสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเยือนผืนป่าภูกระดึง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2554 ณ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ทรงห่วงใยเรื่องทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า จึงมีพระราชประสงค์ให้ช่วยกันปลูกฝังเด็กและเยาวชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า เพื่อให้เกิดความรักและหวงแหน ตลอดจนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีพระราชกระแส ความว่า
“ป่าไม้ถูกตัดทำลายไปอย่างมากจนเป็นปัญหาต่อสภาพแวดล้อมอย่างหนัก การช่วยเหลืออย่างไรก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แม้จะสร้างบ้านทดแทนบ้านที่พังไปแล้วก็อาจพังถล่มได้อีกในคราวถัดไป จึงควรจะเริ่มต้นสอนการอนุรักษ์ป่าไม้ตั้งแต่เด็ก ซึ่งอาจจะเริ่มในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยจัดทำเป็นหลักสูตรหรือกิจกรรม ให้เด็กเกิดความรักและหวงแหนในทรัพยากรป่าไม้และร่วมสงวนรักษาป่าไม้ไว้”


นับแต่นั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้น้อมนำพระราชกระแสมาดำเนินการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในผืนป่าอนุรักษ์ ทั้งการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อาทิ ยางรัก ปาล์ม ไผ่ หวาย การพัฒนาตามแนวพื้นที่พระราชดำริ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร การสร้างป่าสร้างรายได้ และโดยเฉพาะโครงการครูป่าไม้ ที่เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังสร้างจิตสำนึกให้แก่เยาวชนในโรงเรียน ให้เห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) โดยส่วนประสานโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้ จึงได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าว มาดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จนถึงปัจจุบัน ได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนต่าง ๆ นำอุปกรณ์การเรียนการสอนหลากหลาย พร้อมทั้งความรู้บทเรียนเรื่อง "ตามรอยพระราชดำริ" และความรู้เกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่า ให้น้องๆ นักเรียนได้ทำความรู้จักและเข้าใจ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า วนอุทยาน หน่วยจัดการต้นน้ำ สถานีควบคุมไฟป่า สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ ยังมีภารกิจจัดกิจกรรมสร้างพลังแห่งการเรียนรู้ และสร้างเครือข่ายด้านการอนุรักษ์ เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกนักอนุรักษ์ลงในใจของเยาวชน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ถือเป็นพลังต้นทางสู่การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยหวังว่าเมล็ดพันธุ์ของต้นจิตสำนึกที่บ่มเพาะนี้ จะงอกงามลงในใจของเยาวชน และเป็นกำลังสำคัญในการดูแล ฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าต่อไปในอนาคต
ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพสกนิกรชาวไทย ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้เปรียบดังผู้ปิดทองหลังผืนป่า จนทำให้ทรัพยากรธรรมชาติมีความยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จักน้อมนำพระราชดำริมาสืบสาน และต่อยอด ให้ทรัพยากรธรรมชาติในผืนป่าอนุรักษ์ยั่งยืนเคียงคู่พระบารมีสืบไป