"ไฟป่า" ไม่ได้เผาแค่พื้นดิน แต่ยังนำไปสู่การล่มสลายของระบบนิเวศใต้น้ำ
การสูญเสียพืชพรรณขณะไฟไหม้ ยังเพิ่มความเปราะบางของดินต่อการกัดเซาะ ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาหลังไฟป่าจะพัดเอาดินจำนวนมหาศาลไหลลงสู่แหล่งน้ำ ทำให้ระดับตะกอนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตในน้ำ
พืชพรรณที่ล้มตายจากไฟป่าจะส่งผลให้พื้นที่นั้นๆ มีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำต่ำลง นำไปสู่การไหลท่วมฉับพลัน ส่งผลให้โครงสร้างทางกายภาพของแหล่งน้ำนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นไปอีก
การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำ ความใส และโครงสร้างที่อยู่อาศัย จะขยายผลกระทบในวงกว้างต่อใยอาหารสัตว์น้ำ นำไปสู่ความไม่สมดุลของระบบนิเวศในระยะยาว
การฟื้นตัวจากผลกระทบของไฟป่าที่มีต่อระบบทางน้ำอาจเป็นกระบวนการที่ช้า และในบางกรณี ระบบนิเวศเหล่านี้อาจไม่กลับคืนสู่สภาพก่อนเกิดเพลิงไหม้เลย
อันจะเห็นว่าไฟป่ามีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและหลากหลายต่อระบบนิเวศทางน้ำ ในขณะที่เราเผชิญกับอนาคตที่อาจเกิดไฟป่าที่รุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้นจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์
การให้ความสำคัญกับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ในแม่น้ำ ลำธาร เทียบเท่ากับสัตว์ป่าตัวใหญ่บนบก และความตระหนักรู้ถึงผลกระทบ ด้วยการทำเช่นนั้น เราไม่เพียงแต่ปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญเหล่านี้ แต่ยังรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของโลกทั้งใบไว้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลเพจมูลนิธิสืบนาคะเสถียร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.seub.or.th/bloging/news/2024-15/